![]() |
ที่มาภาพ: https://www.planetworldwide.com/news/ |
สวัสดีครับ ในบทความนี้ ผมจะกล่าวถึงหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็นสถานที่แห่งการรวมใจของชาวพุทธ ตั้งอยู่ที่เมียนมา หรือประเทศพม่าที่เรารู้จักกันนั่นแหละครับ ซึ่งก็เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วครับว่า พม่า เป็นประเทศที่มีประชากรนับถือศาสนาพุทธเป็นจำนวนมาก และถึงแม้ว่าพม่าจะเคยตกเป็นอาณานิคมของประเทศตะวันตก เป็นประเทศที่ผ่านการทำรัฐประหารมาหลายต่อหลายครั้ง จนถึงขนาดต้องปิดประเทศ แต่สิ่งที่ไม่เคยเสื่อมคลายไปจากจิตใต้สำนึกของคนประเทศนี้ ก็คือ ความเคารพและศรัทธาในพระพุทธศาสนา โดยพลเมืองในประเทศพม่านั้น จะมีแนวปฏิบัติเดียวกันที่ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เลยก็ว่าได้ ยกตัวอย่าง เช่น การถอดรองเท้าก่อนเข้าวัด หลายๆคนอาจจะคิดว่า ประเทศไทยเราก็ทำใช่มั้ยครับ แต่มันมีข้อแตกต่างอยู่ คือ ของพม่าเขาให้ถอดตั้งแต่ก่อนเข้ามาที่ประตูวัดเลย ไม่ใช่มาถอดไว้ตรงบันไดศาลาอย่างที่ประเทศไทยเราปฏิบัติกันอยู่นะครับ หรือแม้กระทั่งการแต่งตัวของผู้หญิง ที่มีความรัดกุม และสุภาพอย่างมาก เพื่อแสดงให้เห็นว่า เขามีความเคารพและศรัทธากับพระพุทธศาสนามากเพียงใด
เริ่มต้นมาซะยาวแล้ว ทีนี้ผมจะเข้าเรื่องเลยนะครับ นอกจากการปฏิบัติที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของพม่า ที่แสดงให้เราเห็นว่า เขาเป็นเมืองพุท,ธอย่างแท้จริง นั่นก็คือ มหาเจดีย์ชเวดากอง ที่เราจะพูดถึงในบทความนี่ละครับ
![]() |
ที่มาภาพ : https://www.tripadvisor.ru/LocationPhotoDirectLink-g294191-d1985342-i70585455- Shwedagon_Pagoda-Yangon_Rangoon_Yangon_Region.html |
"ชเว" แปลว่า ทองคำ ส่วนคำว่า "ดากอง" เป็นชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้งในปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์แห่งนี้ ดังนั้น เราจึงอาจจะเรียกเจดีย์นี้ได้ว่า "เจดีย์แห่งทองคำ" สาเหตุที่เรียกว่าเจดีย์ทองคำ ก็เนื่องจากที่องค์พระเจดีย์นั้น มีทองคำล้อมรอบ และยังมีเพชรและอัญมณีต่างๆประดับอยู่ด้านบน ทำให้สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมเมือง เนื่องจากองค์พระเจดีย์ที่มีความสูง 48 เมตร และความกว้างโดยประมาณ 105 เมตร ส่วนที่ตั้งของภูมิศาสตร์ขององค์เจดีย์นั้น ก็ตั้งอยู่บนเนินเขา และไม่มีอาคารอะไรมาบดบังความสวยงามของอัญมณีที่ประดับอยู่โดยรอบ โดยภาพรวมแล้ว จึงทำให้เจดีย์ชเวดากอง เป็นเจดีย์ที่ดูเด่นเป็นสง่าของเมืองย่างกุ้ง และของประเทศพม่าเลยละครับ
ส่วนความเป็นมา หรือประวัติของเจดีย์องค์นี้ ผมจะกล่าวโดยคร่าวๆนะครับ ตามตำนานเล่าว่า มีพ่อค้ามอญสองคน ชื่อ ปุสสะและภัลลิกะ ซึ่งมีความเลื่อมใสและศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า หลังจากที่ได้ไปถวายตัวเป็นปฐมอุบาสกแล้ว ก่อนจะจากมา จึงได้ขอพระราชทานสิ่งที่ตนจะนำไปบูชาแทนองค์พระพุทธเจ้า พระองค์จึงได้ประทานพระเกษาธาตุ ทั้งหมด 8 เส้น ให้แก่ชาวมอญทั้งสอง หลังจากที่มอญทั้งสองเดินทางกลับมาถึงเมืองตะเกิง (ย่างกุ้งในปัจจุบัน) ก็ได้สร้างเจดีย์ขึ้น และนำเอาพระเกษาธาตุไปบรรจุไว้ในเจดีย์ เพื่อให้คนได้กราบไหว้มาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับเวลาที่เปิดให้เข้าชมและกราบไหว้องค์เจดีย์ เปิดตั้งแต่เวลา 04.00 น. จนถึง 21.00 น. สาเหตุที่เปิดให้เข้าชมเวลานี้ ก็เพื่อให้ผู้ที่เข้าไปนมัสการองค์เจดีย์ ได้เห็นแสงแรกที่ส่องมาจากทางตะวันออก และเห็นแสงสุดท้าย ที่ส่องมากระทบทองคำและอัญมณีที่อยู่ล้อมรอบองค์เจดีย์นั่นเองครับ สำหรับการปฏิบัติตนเมื่อจะเข้าไปกราบไหว้ ก็คือ ต้องถอดรองเท้า และนำเอารองเท้าใส่ไว้ในถุงพลาสติกที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ครับ หากท่านไม่ปฏิบัติตาม ก็จะมีเด็กพม่าวิ่งอยู่โดยรอบ เพื่อทักท้วงท่าน และบอกให้ทำตามในสิ่งที่เขาเคยปฏิบัติต่อๆกันมาครับ
นี่คือการแนะนำอีก 1 สถานที่ท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายไม่ควรพลาดครับ และหากท่านเป็นชาวพุทธด้วยแล้ว ครั้งหนึ่งในชีวิต ก็ต้องหาโอกาสไปนมัสการองค์เจดีย์และเยี่ยมชมความสวยงามตระการตาขององค์เจดีย์ให้ได้ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก:
http://www.tripdeedee.com/traveldata/myanmar/myanmar05.php
http://www.tripdeedee.com/traveldata/myanmar/myanmar05.php
https://amazingthaisea.com/
http://gothailandgoasean.tourismthailand.org/th/
ค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2561 จากบทความ , เรื่องเล่าจากพระมหาเจดีย์ชเวดากอง แห่งเมียนมา
ค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2561 จากบทความ , เรื่องเล่าจากพระมหาเจดีย์ชเวดากอง แห่งเมียนมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น